สิงคโปร์ - พิพิธภัณฑ์
สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีพิพิธภัณฑ์มากมาย ด้วยระบบการบริหารจัดการที่ดีทำให้พิพิธภัณฑ์ของสิงคโปร์แตกต่างไปจากพิพิธภัณฑ์ในประเทศอื่นๆ กล่าวคือ พิพิธภัณฑ์ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ที่ใช้เก็บของเก่าๆ ตามที่ทุกคนเข้าใจกัน แต่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ “มีชีวิต” ด้วยการอาศัยเทคโนโลยีที่ทันสมัยประกอบกับแนวคิดอันสร้างสรรค์ เพื่อนำเสนอเรื่องราวความเป็นไปที่น่าสนใจชวนให้น่าติดตาม
พิพิธภัณฑสถานในประเทศสิงคโปร์มีอยู่ประมาณ 16 แห่ง เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเพียง 3 แห่ง คือ พิพิธภัณฑสถานประวัติศาสตร์สิงคโปร์ (National Museum of Singapore), พิพิธภัณฑสถานศิลปะสิงคโปร์ (Singapore Art Museum : SAM) และพิพิธภัณฑสถานอารยธรรมเอเชีย (Asian Civilization Museum) อยู่ภายใต้การควบคุมของคณะกรรมการมรดกแห่งชาติสิงคโปร์ (National Heritage Board) รวมถึงหน่วยงานทางด้านศิลปวัฒนธรรมอื่นๆ เช่น หอจดหมายเหตุแห่งชาติ เป็นต้น
พิพิธภัณฑสถานประวัติศาสตร์สิงคโปร์ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความเก่าแก่มากที่สุดก็ว่าได้ พิพิธภัณฑ์นี้จัดแสดงประวัติความเป็นมาของสิงคโปร์ตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 14 จนถึงปัจจุบัน ข้อเด่นของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือการดูภาพยนตร์และ Slide show ด้วยระบบสามมิติ 3D effects ด้วยแว่นตา (จารุณี อินเฉิดฉาย, 2544, หน้า 49-51)
พิพิธภัณฑสถานศิลปะสิงคโปร์ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอความเคลื่อนไหวในวงการศิลปะร่วมสมัยจากทั่วโลก นิทรรศการมีการหมุนเวียนและเคลื่อนที่ไปต่างประเทศอย่างน้อยปีละครั้ง นอกเหนือจากนิทรรศการแล้วยังจัดให้มีการบรรยายหรือเสวนาโดยศิลปินและผู้เชี่ยวชาญทางด้านศิลปะรับเชิญจากต่างประเทศ (จารุณี อินเฉิดฉาย, 2544, หน้า 51)
พิพิธภัณฑสถานอารยธรรมเอเชีย ในระยะแรกได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากฝ่ายต่างๆ ซึ่งองค์กรที่สำคัญในการจัดตั้งและปัจจุบันเป็นผู้อุปถัมภ์หลักในเรื่องงบประมาณและจัดหาวัตถุแสดง คือ มูลนิธิชอว์ (Show Foundation) พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีความพิเศษอยู่ที่ การสรรหานิทรรศการพิเศษๆ จากทั่วทุกมุมโลกซึ่งไม่เคยจัดแสดงที่ใดมาก่อน นำมาให้ชาวสิงคโปร์ได้ชื่นชม นอกจากนี้ยังจัดแสดงเรื่องราวอารยธรรมเอเชีย (จารุณี อินเฉิดฉาย, 2544, หน้า 53)
ในการบริการจัดการพิพิธภัณฑ์ในประเทศสิงคโปร์มีความพิเศษต่างจากที่อื่น คือ เป็นการร่วมมือของทั้งชุมชน เอกชนและภาครัฐ ที่ต่างมีส่วนร่วมในการเป็นส่วนหนึ่งเพื่อสร้างองค์ความรู้ให้กับสังคมหรือประเทศชาติ ยกตัวอย่าง ศูนย์มรดกวัฒนธรรมไชน่าทาวน์ (Chinatown Heritage Centre) ได้มีคณะกรรมการการท่องเที่ยวสิงคโปร์ (The Singapore Tourism Board) ร่วมกับคณะกรรมการมรดกแห่งชาติ (National Heritage Board-NHB) มีแนวคิดที่จะจัดตั้งศูนย์มรดกวัฒนธรรมไชน่าทาวน์ขึ้น โดยการซื้อตึกแถวสามคูหาบนถนนพาโกดา เพื่อเป็นสถานที่เก็บรักษาความทรงจำและเรื่องราวต่างๆ ของชาวจีนที่เข้ามาตั้งรกรากในสิงคโปร์ แม้ทรัพย์สินคือตึกจะเป็นทรัพย์สินของหน่อยงานรัฐ แต่ได้มีการตัดสินใจให้บริษัทเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวเข้ามารับสัมปทานบริหารจัดการ เพื่อความคล่องตัวและเพื่อสร้างผลประโยชน์สูงสุด โดยแนวปฏิบัติที่มุ่งหมายให้พิพิธภัณฑ์ชุมชนสามารถเลี้ยงตัวเองได้ ด้วยการให้สัมปทานแก่บริษัทเอกชนซึ่งมีความเชี่ยวชาญมาบริหารเพื่อสร้างรายได้ให้พิพิธภัณฑ์นั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างและใหม่สำหรับพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย แต่สำหรับสิงคโปร์แล้วถือเป็นเรื่องปกติ (ชีวสิทธิ์ บุณยเกียรติ, 2553, หน้า 24-27) อีกตัวอย่างหนึ่งเห็นได้จากพิพิธภัณฑสถานแสตมป์ (Singapore Philatelic Museum) เดิมนั้นเป็นพิพิธภัณฑสถานเอกชน แต่ปัจจุบันเป็นของหน่วยงานรัฐดูแลโดยคณะกรรมการมรดกแห่งชาติ
นอกจากนี้แล้วเราสามารถพบเห็นพิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวกับชาติพันธุ์ที่มีความหลากหลายในสิงคโปร์ได้มากมาย เช่น Peranakan Museum, Malay Heritage Centre, Teochew Cultural Centre เป็นต้น
บรรณานุกรม
จารุณี อินเฉิดฉาย. (2544, ม.ค. - ก.พ.). พิพิธภัณฑสถานในสิงคโปร์. ศิลปากร, 44(1), 42-59.
ชีวสิทธิ์ บุณยเกียรติ. (2553). พิพิธภัณฑ์สิงคโปร์. กรุงเทพฯ: ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน).